การคัดใช้น้ำหอมให้สมควรกับเวลาอื่นๆ

เมื่อสังเกตเลือกใช้น้ำหอมให้พอเหมาะกับคราวต่างๆเพราะด้วยเพิ่มเติมเสน่ห์ในทุกๆ ที่ทุกขณะ
น้ำหอมเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถใช้ในการล่อใจการยั่วของเพศตรงข้ามหรือการเข้าพบผู้อื่นได้อย่างมีเสน่ห์ มนุษย์เรานั้นมักตรวจดูสิ่งที่ ไม่เคยพบเจอหรือบุคคลที่ไม่รู้จัก ด้วยการรู้สึกทั้ง 5 เป็นปกติ ด้วยเหตุนั้นกลิ่นจึงเป็นเหตุสำคัญ ปัจจัยหนึ่งที่คนอื่นๆใช้คำนึงเพื่อทำความรู้จักกัน

อธิบายเช่น สมมุติเรามีกลิ่นตัวแรง เหม็นเปรี้ยว ไม่พึงประสงค์ ครั้นเมื่อเดินเข้าไปในผู้คนหรือเข้าไปสนทนากับมนุษย์อื่น เราจะแลเห็นว่าการตอบรับที่เค้ามีต่อเรานั้นไม่ค่อยจะดีนัก แม้จะไม่แสดงออกชัดเจนแต่ก็แลดูเห็นได้ว่าฝูงชนเหล่านั้นพยายาม หลีกหนี ที่จะเข้าหาหรือพูดกับเราหรือ หากสนทนาพบปะ ก็ใช้เวลาน้อยและรีบจากไป นั่นเป็นเค้าได้พิจารณาเราอย่างแล้วว่าไม่น่าพูดคุยด้วยเท่าไหร่นัก

นั่นเพราะด้วยกลิ่นนั้นนอกจากจะเป็นตัวสร้างการรับรู้แล้ว ยังมีผลต่อจิตใจอีกด้วย โดยทั่วไปในเข้าผู้เข้าคนคน กลิ่นถูกใช้วิเคราะห์บุคคล ว่าเป็นคนบุคคลิกอย่างไร หากมีกลิ่นในลักษณะรุนแรง หมักหมม หรือกลิ่นเปรี้ยว หรือกลิ่นอับจะถูกมองว่าเป็นคนที่ไม่สะอาด ไม่ใช่คนที่ดูแล ตัวเองและขาดความดูแล และอาจจะถูกพิจารณาในเรื่องอื่นๆตามมาด้วย กลับกันหากมีกลิ่นหอมแล้วละก็ นั่นหมายว่าความสะอาด ความเอาใจใส่ ในคนๆนี้นั้นเยี่ยมเป็นต้น

เพราะเช่นนั้นน้ำหอมจึงเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่หรือสังคมใหญ่ๆ ให้ความสนใจในการพิจารณาบุคลิกลักษณะ รูปพรรณนิสัย และอื่นๆ ซึ่งน้ำหอมนั้นนอกจากจะใช้เพื่อให้กลิ่นหอมแล้ว ยังใช้ในการบ่งบอกอารมณ์ นิสัย และความเอาใจใส่ได้อีกด้วย เพราะน้ำหอมนั้นมีผลต่ออารมณ์ของผู้ใช้และผู้ที่ได้กลิ่น นอกจากนี้น้ำหอมยังอาจก่อให้เกิดความมั่นใจ ดึงดูดผู้อื่นให้เข้าใกล้ หรือใกล้ชิดกับผู้อื่นได้ง่ายขึ้นก็ได้ ในทางตรงกันข้ามก็สามารถทำให้ผู้อื่นปวดศีรษะ เดินเลี่ยง หรือไม่อยากเข้าใกล้เลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน

แต่เราจะรู้ได้ประการใดว่า น่าจะใช้น้ำหอมอย่างใด ในสภาวการณ์แบบใด? โดยรวมไม่มีกฎเกณตายตัวที่จะใช้น้ำหอมในสภาวะหนึ่งๆ แต่เพื่อให้น้ำหอมที่เราจะใช้นั้นสามารถเติมคุณค่าให้กับเราได้มากที่สุด เราจึงต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆรอบกายอย่างละเอียดถี่ถ้วนโดยแยก สังเกตดังนี้

เลือกไปที่ใด
พื้นที่ที่เราจะต้องไปนั้นมีผลเช่นไรต่อกลิ่นน้ำหอม? หรือว่าน้ำหอมจะแปรเปลี่ยนไปในสถานที่ผิดแผกแตกต่างกัน? ก่อนอื่นต้องบอกให้ทราบก่อนว่า แม้เราจะใช้ น้ำหอมนั้นเราอาจใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา แต่จะใช้กลิ่นรูปแบบไหนให้มีเสน่ห์หรือมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั้นเราพิจารณาจากหลายปัจจัย ในกรณี สถานที่ ทำไมเราต้อง พิจารณาสถานที่ที่เราจะไปด้วย? เราจะใส่น้ำหอมแบบไหนไปไหนก็ได้นี่เพราะไม่มีกฏเกณฑ์? ที่ต้องพิจารณานั่นเนื่องจากว่า แต่ละสถานที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละที่อยู่ ซึ่งกลิ่นน้ำหอมที่หอมในสถานที่หนึ่งเป็นได้แย่มากในอีกสถานที่หนึ่งก็ได้

แบบอย่างเช่น สมมติว่าเราจะต้องไปงานมงคลสมรสในโรงแรมหรู เราก็พินิจพิเคราะห์ได้ว่าที่ตั้งคือ โรงแรมหรู สภาพคืองานสมรส หากเราไปเป็นแขกเหรื่อ เราก็ควรใช้กลิ่นที่ให้จิตใจสดชื่น ยินดี นุ่มนวล หย่อนอารมณ์ โดยมากจะเป็นน้ำหอมที่ทำมาจากกลิ่นดอกไม้เป็นหลักการ เช่น กุหลาบ มะลิ ซ่อนกลิ่น

ในงานมงคลสมรส

หากเป็นน้ำหอมผู้ชายก็ต้องเป็นกลิ่นที่อบอุ่นๆ สะอาด และชื่นบานหน่อยๆ เนื่องจากจะทำให้เราดูเรียบร้อย และร่มเย็น เลี่ยงน้ำหอมที่กลิ่นหนักหน่วง(พวกกลิ่นใบยาสูบ,น้ำหอมกลางคืน) กลิ่นแนว sport และกลิ่นแนวของหวาน กลิ่นน้ำหอมที่แรงจะตัดบรรยากาศรอบข้างจากความสุขจะ เปลี่ยนไปเป็นความเหนื่อยหน่าย กลิ่นแนวสปอร์ตจะทำเอาเราดูสบายจนเกินพอดี ขาดความสุขุม ไม่มีมารยาทและความนิ่มนวลละเอียด ทำเอาไม่มีเสน่ห์เท่าที่ควร ส่วนกลิ่นแนวขนมนั้นจะทำเอาดูเด็กและขาดเสน่ห์ของสาวรุ่นไป (เว้นแต่ว่าเราอายุน้อย สามารถใช้กลิ่นของขนมหอมหวานได้)

การพินิจพิจารณาสถานที่นั้นคงจะต้องใคร่ครวญสิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วย และควรทราบเรื่องประกอบของที่นั้นๆให้ดี เพราะที่จะสามารถวิเคราะห์ใช้น้ำหอม ได้อย่างมีศักยภาพ

กาลเวลา ณ เวลานั้น
น้ำหอมส่วนมากจะนิยมใช้กลิ่นเบาๆในตอนกลางวัน และใช้กลิ่นเข้มข้นในช่วงค่ำๆ ที่เป็นยังงั้นค่อนข้างเพราะในเวลากลางวันนั้น อากาศในบ้านเราจะร้อนชื้น แม้ได้กลิ่นหอมแรงๆจะทำเอาตาลายและพาลเป็นลมเอาง่ายๆ อีกอย่างในกลางวันเราจะต้องพบปะผู้คนแบบเป็นทางการ

พระอาทิตย์ลับฟ้า
การใช้น้ำหอมกลิ่นรุนแรง มีผลกระทบให้ผู้มาติดต่อหรือคบหาสมาคมเห็นว่าเป็นการลุกล้ำจู่โจมแดนโดยส่วนตัว ไม่รู้จักกาละเทศะและไม่มีกิริยามารยาท เพราะนับว่าเป็นการ รบกวนอย่างหนึ่ง แต่ในเวลากลางคืนนั้นตรงกันข้าม เนื่องจากภูมิอากาศที่เย็นและกลิ่นอายเป็นคุ้นเคยมากกว่า เป็นเหตุให้การกำหนดใช้น้ำหอมกลิ่นไอเข้มข้น ด้วยกลิ่นที่เข้มข้นจำนวนมากจะน่าหลงใหลและมีเสน่ห์แบบเซ็กซี่ของผู้ใหญ่ที่น่าดึงดูด เพราะว่าค่ำคืนนั้นเป็นที่ทราบกันว่ามีความโรแมนติค ความเป็นส่วนตัวสูง ผู้ที่เที่ยวไปยามค่ำคืนเองก็พึงใจที่จะเป็นที่นิยมนิยมชมชอบของเพศตรงข้าม น้ำหอมที่ใช้สำหรับยามค่ำคืนจึงเต็มไปด้วยกลิ่นที่จะยั่วยวนใจจากเพศตรงข้าม ไม่ก็บางขณะอาจจะใช้เป็นกลิ่นภูมิฐานเกี่ยวกับงานสังคมที่เป็นทางการ เช่น งานดินเนอร์ ฯลฯ

ภูมิอากาศ
ของอากาศนั้น มีส่วนสำคัญที่เราจะเลือกใช้น้ำหอม เมื่อดินฟ้าอากาศที่ร้อนอบอ้าวควรใช้กลิ่นที่หอมเย็นกลิ่นแจ่มใส ชนิดกลิ่นเปรี้ยวๆ หรือกลิ่นชายทะเลอย่าง Davidoff Cool water,Bvlgari aqva,หรือกลิ่นแนว Sport อย่าง Issey Miyake L’eau Pour homme sport,addidas,Puma,CK summer เป็นต้น กลิ่นเหล่านี้จะช่วยเพิ่มอารมณ์ที่สดชื่นพักผ่อนหย่อนใจในช่วงภูมิอากาศร้อนๆได้ดี

ในส่วนของภูมิอากาศเย็นๆนั้น กลิ่นของขนมหวาน กลิ่นดอกไม้หวานๆ กลิ่นวานิลลา และกลิ่นที่เข้มข้นจะนำไปใช้ได้ดี ทั้งนี้เพราะอากาศเย็นจะทำให้เรารู้ตัวกลิ่นได้ดีและไม่ฟุ้งมาก คนเราหากได้กลิ่นในที่สภาพอากาศเย็นจะทำให้รู้สึกว่ากลิ่นนั้นลดความรุนแรงลง พวกกลิ่นอุ่นสบายจึงอาจจะใช้ได้ดีด้วย เหมือนกัน อย่างเช่น Burberry Brit,Jessica Mcclintock,CK Secret obsession,Paris Hilton can can ฯลฯ